ธรรมมะ ย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

มนุษย์เราเอ๋ย




“มนุษย์เราเอ๋ย ก่อนที่เราจะเที่ยวไปขอพรจากใครคนหนึ่ง


ขอให้เราจงสำรวจตรวจตราดูอย่างต้นข้าว


กว่าจะผลิรวงเป็นเมล็ดก็ใช้เวลานาน


กว่าจะได้ผลผลิตดังหมายการทำการกุศล


ความดีงามก็เช่นกันนั้นก็ย่อมมีกาล


มีเวลาเป็นของมันเองจะไปเร่งเทพเทวดา


จะเร่งบุญกุศลเช่นไรได้อย่างไรเล่า


เหมือนฤดูฝนก็ย่อมมีกาลมีเวลาของมัน


แล้วชะตาชีวิตคนเราก็เช่นกันเมื่อกาล


นั้นยังไม่ถึงพร้อมเจ้าจะไปเร่งแสวงหา


จากใครกันเล่าเพราะกรรมที่เราสร้างไว้


สมสั่งเพียรเพียงพอหรือยังศีล ทาน เมตตา


กตัญญู ภาวนา อย่าลดละบูชา และปฏิบัติ


แต่สิ่งที่ดีงามครั้นกาลเวลาส่งอำนวย


ทั่วฟ้าจบดินแม้แต่เทวดาก็มิอาจต้านทานใน กรรมกุศลของเราไปได้"




คัดลอกส่วนหนึ่งจากหนังสือ “อุบาสิกา แม่จันทร์ทา ฤกษ์ยาม”บันทึกบทธรรม ชีวประวัติ สตรีใจเหล็กผู้เพียรฝึกสติด้วยความมุ่งมั่นสตรีใจเพชร ผู้มีจิตใจงดงามดุจจันทร์วันเพ็ญ ผู้เป็นราชินีในหัวใจชนผู้ทุกข์ยาก สตรีใจพระผู้ทรงคุณวิสุทธิ์จนเป็นที่กล่าวขานจากครูบาอาจารย์สายพระกรรมฐานบันทึกธรรมโดย นายพันธกานต์ กิ้มทอง (โจ)

ไม่มีความคิดเห็น: