ธรรมมะ ย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม

วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

หลวงปู่สาย เขมธมฺโม


๏ ลำดับการจำพรรษา

แม้ในการบวชครั้งที่ 2 ท่านจะมีอายุมากถึง 57 ปีแล้วก็ตาม แต่หลังจากบวช ท่านได้เข้าป่าเพื่อบำเพ็ญเพียรเพียงอย่างเดียว ในปีแรก ได้ไปพำนักจำพรรษาอยู่กับหลวงตาขนบ ณ วัดดอนอีใข อ.เมือง จ.อุดรธานี พรรษาที่ 2 ย้ายไปจำพรรษาที่วัดป่าศรีอุดม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี โดยมีหลวงปู่แสง ญาณวโร เป็นประธานสงฆ์ คอยให้คำแนะนำ ทำให้การปฏิบัติภาวนามีความรุดหน้า จิตสงบ ในพรรษานี้ ท่านได้มีโอกาสไปกราบเรียนธรรมปฏิบัติกับ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธมฺมวโร ณ วัดป่าแก้วชุมพล ต.บ้านชุม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร พระอาจารย์สิงห์ทอง ได้ให้อุบายธรรมเพื่อให้หลวงปู่ได้นำไปพิจารณาและแนะแนวทางในการปฏิบัติกรรมฐาน เมื่อท่านได้รับความกระจ่างหมดปัญหาที่ติดขัด ก็ออกท่องปลีกวิเวกและธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศ และประเทศใกล้เคียง เพื่อค้นหาความจริงต่อไป ในบางครั้ง หลวงปู่สาย มีโอกาสได้เข้าไปพักอาศัยกับครูบาอาจารย์ เพื่อรับฟังโอวาทธรรม อาทิ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ, หลวงปู่คำดี ปภาโส, หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ ฯลฯ ในตอนที่หลวงปู่สายเข้าไปกราบ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ นั้น หลวงปู่อ่อนได้ทักขึ้นว่า “ผ่านเสียงได้แล้วนี่” สาเหตุที่หลวงปู่อ่อนทักเช่นนี้ คงเป็นเพราะหลวงปู่สายเดินจงกรมสู้กับเสียงที่เกิดจากเครื่องขยายที่ใช้ในงานมหรสพ หลวงปู่สาย ปรารภว่า “เสียงก็อยู่ส่วนเสียง ไม่เข้ามากระทบจิตเลย ต่างคนต่างอยู่” นอกจากนี้ ท่านยังเป็นศิษย์องค์สำคัญของ “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” แห่งวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระสงฆ์ที่ได้คุณธรรมชั้นสูง หลวงปู่ท่านเป็นผู้ที่มีความเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่เคยตำหนิ หรือกล่าวร้ายผู้อื่นเลย

ไม่มีความคิดเห็น: