ธรรมมะ ย่อมคุ้มครองผู้ปฏิบัติธรรม

วันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

พระสงฆ์องค์สุดท้ายของพระพุทธศาสนาที่ทันพระพุทธเจ้า


ถาม : พระที่ปฏิบัติดี เหมือนกับว่าเป็นลักษณะที่ว่าสืบทอดเชื้อสายมา มีน้อยองค์มากที่จะเก่งได้ด้วยตัวเอง ต้องมีครูบาอาจารย์ ?

ตอบ : ไม่มีทางหรอก เก่งได้ด้วยตัวเองนี่ไม่เจอเลย อย่างน้อยๆ ต้องมีกัลยาณมิตรที่เป็นครูบาอาจารย์ อย่างน้อยคุณต้องมีพระพุทธเจ้าเป็นกัลยาณมิตร ค้นคว้าพระไตรปิฎก อย่างสุภัททะปริพาชก เป็นปัจฉิมสาวก คือพระองค์สุดท้ายที่บวชทันพระพุทธเจ้า ได้ฟังเทศน์จากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า และปฏิบัติตนเป็นพระอรหันต์ก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพาน

ท่านเข้าไปถึงท่านถามว่า ข้าแต่สมณโคดมผู้เจริญ บรรดาคณาจารย์ทั้งหกนั้น ข้าพเจ้าเห็นว่ามีบางคนเป็นพระอรหันต์ มีบางคนไม่ใช่พระอรหันต์ มีบางคนเป็นผู้เข้าถึงธรรม มีบางคนเป็นผู้ไม่ใช่เข้าถึงธรรม พระองค์ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ดูก่อนสุภัททะ นี่เป็นวาระสุดท้ายของตถาคต เธออย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลย ฟังธรรมดีกว่า คือไม่ให้ยุ่งเลย สุภัททะปริพาชก พอฟังธรรมของพระพุทธเจ้าแล้วก็ขอบวช พระอานนท์บอกว่าพระพุทธเจ้าป่วยจนป่านนี้แล้ว อย่าเพิ่งบวชตอนนี้เลย แล้วอีกอย่างการบวชพระในพระพุทธศาสนาต้องถือติตถิยปริวาส คือการอยู่แบบปฏิบัติอย่างคนนอกที่เข้ามาบวช ๓ เดือนเป็นอย่างน้อย ถ้า ๓ เดือน แล้วยังทำดีไม่ได้ ให้อยู่อีก ๓ เดือน ถ้ายังเอาดีไม่ได้ ให้อยู่ ๓ เดือน รวม ๓ ครั้ง ๙ เดือน ยังเอาดีไม่ได้ก็ไม่ต้องบวช ปริพาชกก็กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า ท่านขออยู่ปริวาส ๔ ปี แต่ว่าขอบวชให้เขาก่อน พระพุทธเจ้าก็เลยบอกพระอานนท์ บอกว่าเมื่อกำลังใจเขาขนาดนี้ก็บวชให้เขาเลย ตกลงก็ญัตติกันตรงนั้นแหละ ญัตติเสร็จท่านก็เดินจงกรมไป กลายเป็นพระอรหันต์ทันพระพุทธเจ้าก่อนปรินิพพานนิดเดียวเอง

เขาบอกว่าบุพกรรมที่ทำให้ท่านเป็นปัจฉิมสาวก คือทันพระพุทธเจ้าเป็นคนสุดท้ายจริงๆ เพราะว่าในอดีตชาติท่านกับพระอัญญาโกณฑัญญะเป็นพี่น้องกัน แบ่งนากันทำ คราวนี้พระโกณฑัญญะเริ่มไถนาท่านก็ทำบุญ เริ่มหว่านข้าว ท่านก็ทำบุญ ข้าวตั้งท้องท่านก็ทำบุญ เกี่ยวข้าวท่านก็ทำบุญ ขนข้าวขึ้นยุ้งท่านก็ทำบุญ

ส่วนสุภัททะปริพาชกนี้ขี้เกียจทำอย่างนั้น แกเล่นไปทำตอนขนเข้าขึ้นยุ้งอย่างเดียว ปรากฏว่าพระโกณฑัญญะที่เริ่มตั้งแต่ไถนาก็กลายเป็นพระอรหันต์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ส่วนพระสุภัททะผลบุญส่งให้เป็นองค์สุดท้ายของพระพุทธศาสนาเหมือนกัน ยังดีที่ทัน นั่นของท่านนะ ของเราเฮงซวยอยู่จนป่านนี้ยังไม่ได้อะไรเลย


สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เดือนตุลาคม ๒๕๔๕
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ